2Madames.com

Leave a Comment

ประเทศนิวซีแลนด์ หนึ่งในประเทศที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังซ่อนไว้ด้วยกิจกรรมต่างๆมากมาย

วันนี้ 2Madames จะมารีวิวการเที่ยวนิวซีแลนด์แบบเน้นกิจกรรมต่างๆ เปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับทุกคนในครอบครัว เช่น กลิ้งลูกบอลยักษ์ลงจากภูเขา, แช่สปาโคลนร้อน, นั่งรถ 4WD ไปซาฟารี, เรือ SHOTOVER JET, ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมธารน้ำแข็ง, เล่น Zipline บน Skyline Queenstown และเที่ยวหมู่บ้านฮอบบิท หนึ่งในฉากถ่ายทำจากภาพยนตร์ The Lord of the Rings จะมีอะไรน่าสนใจ สนุกสนานแค่ไหน ตามไปรับชมรีวิวกันครับ

โปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวนิวซีแลนด์เน้นกิจกรรม New Zealand ของครอบครัวเรา 8 วัน 7 คืน Rotorua – Queenstown – Wanaka – Franz Josef Glacier – Greymouth – Chirstchurch

28 ก.พ. 62 เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยสายการบิน Singapore Airlines แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน Changi ประเทศสิงคโปร์ ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง Auckland ด้วย EconomySkyCouch สายการบิน Air New Zealand

1 มี.ค. เดินทางต่อมายัง Rotorua เที่ยวหมู่บ้านฮอบบิท Hobbiton Movie Set สถานที่ถ่ายทำหนึ่งในฉากถ่ายทำจากภาพยนตร์ The Lord of the Rings

2 มี.ค. กลิ้งลูกบอลยักษ์ลงภูเขาที่ OGO Rotorua เที่ยวชมวัฒนธรรมของชาวเมารีที่ TE PUIA จบด้วยสปาโคลน MUD SPA ที่ Hells Gate

3 มี.ค. เดินศึกษาธรรมชาติบนสะพานทางเดินต้นไม้ Redwood Treewalk บินต่อด้วย Air New Zealand ไปยังเมือง Queenstown แล้วล่องเรือโบราณ TSS Earnslaw ไปทานดินเนอร์และดูโชว์แกะที่ Walter Peak

4 มี.ค. ล่องเรือสุดตื่นเต้น SHOTOVER JET ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิว Milford Sound จากมุมสูง ต่อด้วยเล่น Ziptrek Moa 4-Line Ecotours และ Luge ที่ Skyline Gondola Queenstown

5 มี.ค. ออกเดินทางไปยังเมือง Wanaka แวะเที่ยวเมืองน่ารัก Cardrona ต่อด้วยนั่งรถ Ridgeline Adventure 4WD Safari บ่ายเดินทางต่อไปยัง Franz Josef Glacier

6 มี.ค. ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เที่ยวธารน้ำแข็ง Franz Josef Glacier เดินทางไปนั่งรถไฟ TranzAlpine จาก Greymouth ถึง Chirstchurch

7 มี.ค. เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับคนที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวนิวซีแลนด์ ลองอ่านรีวิวครั้งก่อนที่พวกเราไปเที่ยวด้วยรถบ้านกันได้ครับ
ขับรถบ้านเที่ยวนิวซีแลนด์ เกาะเหนือยันเกาะใต้ : 16 วัน 3,000 Km กิน-เที่ยว-ชิลด์-ช้อป
http://www.2madames.com/new-zealand-by-campervan/

เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่านะ ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน Singapore Airlines เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ก่อน

เนื่องจากเราเป็นสมาชิกของ Star Alliance Gold จึงสามารถเข้าเลาจน์ SilverKris Lounge ของ Singapore Airlines ได้

อาหารและเครื่องดื่มจัดเต็มมาก มีทั้งอาหารคาวหวาน เครื่องดื่มต่างๆ ยันน้ำมะพร้าวที่มาเป็นลูกเลย แถมมีไอศกรีมฮาเก้นดาสทานได้ไม่อั้นอีก สุดยอดเลย

อิ่มแล้วขึ้นเครื่องบินกันเลย คือมาตรฐานของ Singapore Airlines ดีมาก ทั้งเก้าอี้กว้างนั่งสบาย มีหูฟังแจกฟรีเอากลับบ้านได้เลยด้วยนะ เด็กๆถูกใจของเล่นที่แจกมาจากพี่นางฟ้าแอร์โฮสเตส ส่วนผมกับภรรยาชอบบริการของลูกเรือมาก ดูแลดี ของกิน เครื่องดื่มนี่บริการไม่ได้ขาดตลอดการเดินทางเลย สมเป็นสายการบินอันดับ 1 จาก Skytrax ปีที่ผ่านมาเลย

เชิญรับชมคลิปกัน

 

ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าๆก็ถึงสนามบิน Changi Airport ของประเทศสิงคโปร์แล้ว

ตรงนี้เก๋นิดหนึ่ง อยากจะเล่าสิทธิประโยชน์ของผู้โดยสารที่เดินทางมาเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์เพื่อเดินทางต่อ จาก 3 สายการบิน ได้แก่ Singapore Airlines, Air New Zealand และ SilkAir จะได้รับเว้าเชอร์คนละ SGD20 ต่อคน ให้สามารถนำไปใช้จ่ายซื้อของในสนามบินได้เลย

งานนี้ครอบครัวเราเลยเหมือนได้ของขวัญติดไม้ติดมือแบบฟรีๆ ระหว่างแวะเปลี่ยนเครื่องด้วย ดีต่อใจมากมาย

ถึงเวลาบินต่อแล้วจ้า ขาจากสิงคโปร์เดินทางไปยังเมือง Auckland ประเทศนิวซีแลนด์ เราเดินทางด้วยสายการบิน Air New Zealand ครับ

ลูกเรือเค้าค่อนข้างใส่ใจเด็กๆนะ อาหารของเด็กจะมาเสิร์ฟก่อนเสมอ แวะมาดูแลเอาของเล่น ขนมมาแจกตลอดไฟล์ทเลย

ไม่ง้อชั้นธุรกิจ บินชั้นประหยัด ก็นอนราบมีที่นอนแบบโรงแรมได้นะ

ไฟล์ทนี้บินจากสิงคโปร์ไปโอ๊คแลนด์ ใช้เวลาบินประมาณ 9-10 ชั่วโมง แถมเป็นช่วงกลางคืนด้วย จึงเป็นไฟล์ทที่จำเป็นต้องหลับบนเครื่องบินแน่นอน

ครั้นจะให้บินแบบชั้นธุรกิจแบบ Business Class บางทีเราก็มีงบไม่ถึงเนอะ แต่จะทำยังไงที่จะได้นอนราบยาวๆ แต่งบไม่แพงจนจ่ายไม่ไหว

ต้องนี่เลยจ้า EconomySkyCouch เป็นชั้นที่เหนือกว่าชั้นประหยัดทั่วไป เค้าจะจัดให้เรานั่ง 3 ที่นั่งเรียงกัน ที่พิเศษก็คือ พอทานดินเนอร์เสร็จ จะมีเจ้าหน้าที่มาจัดเตียงให้เรานอนราบยาวๆ มาพร้อมหมอน ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม เสมือนว่าได้นอนบนเตียงในโรงแรมเลย

หลังมื้ออาหารแรก จะมีลูกเรือมาปูที่นอนให้หมด เราแค่รอแล้วก็ลงไปนอนสบายๆได้เลย

งานนี้ได้นอนราบยาว ก็เหมือนได้พักผ่อนเต็มที่ ไม่ต้องทนนั่งหลับบนเก้าอี้ ให้ปวดหลังปวดคอเลย ดีงามจริงๆ

มาถึงตรงนี้ หลายๆคนอาจจะสนใจแล้ววว่าการจองแบบ EconomySkyCouch ราคาคือเท่าไหร่เนอะ

สำหรับราคาค่าตั๋วจะคิดแบบนี้ครับ คือเราจะต้องซื้อตั๋วปกติก่อน ซึ่งราคาจะขึ้นๆลงๆ ต้องเช็คกันเอง อันนี้คือ ตั๋ว 4 ใบราคาปกติก่อน

แต่ในส่วนที่ Add-on EconomySkyCouch จะคิดเพิ่มตามนี้ครับ
อันที่ครอบครัวเราแอดเพิ่มมาก็คือ ตัว 1 Adult 1 Child 499 SGD x 2 แถวนะครับ
หรือถ้าใครมากี่คนก็ลองดูราคาที่ภาพด้านล่างนี้ครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.airnewzealand.co.nz/economy-skycouch

มาพูดถึงเครื่องบินที่ใช้บิน ไฟล์ทนี้เป็นของ Boeing 787 Dreamliner ได้บินเครื่องรุ่นใหม่ๆ ช่างมีนวัตกรรมดีมาก เช่น ม่านบังแสงแบบไฟฟ้า, ระบบ Chat ระหว่างเก้าอี้ หรือกระทั่งการเรียกลูกเรือที่สามารถระบุคำร้องขอได้เลย ประหยัดเวลาในการเดินมาถามก่อน สั่งได้เลยว่าจะเอาอาหารหรือเครื่องดื่มทันทีครับ

มันเจ๋งแค่ไหน มาชมคลิปกัน

 

เช้าวันใหม่ครอบครัวเราก็เดินทางมาถึงที่ New Zealand พวกเราเดินทางโดยรถยนต์จาก Auckland มายังเมืองแรก Rotorua

ที่เที่ยวแรกของทริปนี้ที่นิวซีแลนด์ ก็คือ Hobbiton Movie Set หรือหมู่บ้านฮอบบิท หนึ่งฉากสำคัญในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง The Lord of the Rings

Hobbiton Movie Set เป็นหนึ่งในฉากสำคัญของเรื่อง The Lord of the Rings ถ้าใครจำฉากเปิดของเรื่องที่แกรนดาฟเดินทางมายังหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อฉลองวันเกิดให้บิลโบ้ พร้อมทั้งปรากฏตัวละครหลักที่เป็นพวกฮอบบิทอย่าง แซมหรือโพรโด้

เวลาเรามาเที่ยวที่นี่ เราจะพบบ้านของเหล่าฮอบบิทเป็น 2 ไซค์ คือแบบขนาดเล็กที่จะมีขนาดความสูงเท่าประมาณความสูงของเด็กๆ และจะมีอีกไซค์ที่จะมีความสูงเท่าผู้ใหญ่จริงๆ เพื่อให้นักแสดงที่มีความสูงปกติมาแสดงเป็นฮอบบิทตัวจิ๋วได้

เชื่อมั้ยว่าหมู่บ้านแห่งนี้ เดิมทีใช้เวลาสร้างฉากหมู่บ้านฮอบบิทในครั้งแรกถึง 2 ปี แต่กลับใช้เวลาในการถ่ายทำเพียงประมาณ 10 วันเท่านั้นเอง เสร็จแล้วก็ถูกพังคืนสภาพไปครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง ซึ่งการสร้างครั้งที่สองทางผู้จัดทำตั้งใจให้หมู่บ้านฮอบบิทแห่งนี้อยู่นานจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จึงได้สร้างทุกอย่างให้มีความละเอียดมากขึ้น ซึ่งบ้านแต่ละหลังถูกออกแบบให้มีความสมจริงทั้งรายละเอียดต่างๆ ของใช้ประจำวันจะสามารถดูออกเลยว่าเจ้าฮอบบิทที่เป็นเจ้าของบ้านนั้นทำอาชีพอะไร หรือชอบทำกิจกรรมอดิเรกอะไร แม้บ้านบางหลังถูกสร้างขึ้นมาแต่ในภาพยนตร์ก็ไม่ได้ฉายออกอากาศถึงเลย แต่รายละเอียดต่างๆก็ถูกสร้างขึ้นอย่างสมจริงที่สุด

ตัวอย่างอีกอย่างในเรื่องความเอาจริงเอาจังในการสร้างฉากให้สมบูรณ์ ก็คือ รั้วไม้

คือรั้วไม้เหล่านี้ที่จริงเป็นรั้วใหม่ แต่สภาพในหนังสือกล่าวว่าเป็นหมู่บ้านอายุเก่าแก่ ทางทีมผู้สร้างจึงได้สร้างมอสปลอมมาเกาะรั้วไม้ เพื่อให้เกิดความสมจริงที่เหมือนในหนังสือมากที่สุด

เดินเที่ยวที่นี่เพลินจริงๆ วิวจากมุมสูงมองลงไปสวยมากๆ

และหลังนี้คือหลังที่มีฉากในหนังครับ บ้านของลุงบิลโบ้ เชื่อมั้ยว่าฉากในหนังที่ได้ฉาย นอกบ้านจะใช้ฉากบริเวณนี้ แต่ด้านในบ้านกลับไปถ่ายอีกเมืองหนึ่งนะ ส่วนต้นไม้บนหลังคาบ้าน ต้นนั้นเป็นของปลอมนะครับ

ที่นี่สวยเหมือนเทพนิยายเลย

พวกเราถ่ายภาพกันสนุกเลยครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม Hobbiton Movie Set : https://www.hobbitontours.com/en/
พิกัดการเดินทาง : https://goo.gl/maps/HvnLhagZTe72

มาชมคลิปบรรยากาศกัน

เย็นแล้ว เข้าพักที่โรงแรม Regent of Rotorua ทำเลดีมาก อยู่กลางเมือง ใกล้แหล่งกิน ภัตตาคารรายล้อมเลย

ห้องพักกว้างขวาง สะอาดและสวยมาก ไม่แปลกใจที่จะได้คะแนนรีวิวจาก booking.com ระดับ 9 กว่าๆเลย สูงมากๆ

เช้าวันใหม่ พวกเรามุ่งหน้ามาทำกิจกรรมสนุกๆอย่าง OGO Rotorua กัน

กิจกรรม OGO Rotorua จะเป็นการเข้าไปอยู่ในลูกบอลยักษ์ที่เติมน้ำอุ่นไว้

จากนั้นก็จะกลิ้งลงจากเนินเขาลงมาแบบนี้ครับ โดยทางมีตั้งแต่แบบตรงๆ แบบซิกแซกไปมา

สนุกสนานดีเหมือนกันนะครับ

ปล. ไม่ต้องกลัวหนาวนะครับ เพราะในลูกบอลยางจะมีน้ำอุ่น จะหนาวตอนออกมาจากบอลหน่อย แต่เค้าจะมีบ่อน้ำอุ่นให้สามารถลงไปแช่น้ำได้ครับ

เค้ามีเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวให้ยืมด้วยนะครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม OGO Rotorua : https://ogo.co.nz/
พิกัด : https://goo.gl/maps/p1yAmHGxbsL2

มาชมให้เห็นภาพกัน

 

เราเดินทางมาเที่ยวชมวัฒนธรรมของชนเผ่าดั้งเดิมของนิวซีแลนด์กันที่ Te Puia

ที่นี่จะมีการแสดงต้อนรับ Traditional Maori Welcome and Concert

ผู้ชายมีแล่บลิ้น ถลนตา สนุกดีครับ

บริเวณนี้จะมีน้ำพุร้อน หรือ Geyser ที่จะพวยพุ่งสูงถึง 7 เมตรเลย

นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์คือ เปิดประสบการณ์การทำอาหารในแบบเมารีดั้งเดิม

เค้าจะให้เราตักไก่ ข้าวโพด และอาหารอีกหลายชนิด แล้วจะทำไปนึ่งด้วยไอน้ำจากน้ำพุร้อนประมาณ 2 ชั่วโมง

ตอนแรกยังสงสัยว่าไก่จะสุกมั้ย แต่พอได้ลองชิมจริงๆ เนื้อไก่ร่อนนุ่มเลยครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม Te Puia : https://tepuia.com/
พิกัด : https://goo.gl/maps/ozCw5fm7DXv

มาชมคลิปกัน

 

บ่ายๆ เดินทางมากันต่อที่ Hells Gate Mud Bath and Spa Complex

เรามาทำสปาโคลน หรือ Mud Spa กัน

ทำไมต้องสปาโคลน เพราะโคลนของเมือง Rotorua มีชื่อเสียงเรื่องแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิว และ Detox ดูดสารพิษในชั้นผิวออกมาด้วย

เค้ามีห้องส่วนตัวให้เช่านะครับ โคลนจะอุ่นๆ แช่แล้วสบายตัวครับ

แช่ห้องส่วนตัวเสร็จแล้ว แนะนำให้มาแช่บ่อรวมด้านนอกด้วยนะ บ่อเค้าสวยเลยละ

งานนี้คุณนายแอนฟินมากครับ เรื่องสวยของนางเรื่องใหญ่นะ

รายละเอียดเพิ่มเติม Hells Gate Geothermal Park and Mud Bath Spa : www.hellsgate.co.nz/
พิกัด : https://goo.gl/maps/AZkJgpa2Pq72

มาชมคลิปกัน

 

เช้าวันใหม่ เรามีเวลาเล็กน้อยในช่วงเช้า เลยมาเที่ยวกันที่ Redwoods Treewalk กัน

Redwoods Treewalk เป็นทางเดินสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างต้นไม้ 23 สะพานต่อๆกันเป็นวงกลม ซึ่งตลอดทางเราจะได้เยี่ยมชมป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์

The big trees บริเวณทางขึ้น คือต้นไม้ใหญ่จนน่าตกใจเลย

เด็กๆชอบเดินสะพานแบบนี้มากเลย ทางแบบนี้ถ่ายภาพสวยด้วยนะ

กิจกรรมระหว่างทางคือ จะมีคำถามตามต้นไม้ ซึ่งเด็กๆจะต้องหาคำตอบเกี่ยวกับธรรมชาติตลอดเส้นทาง

รายละเอียดเพิ่มเติม Redwoods Treewalk : www.treewalk.co.nz/en_US/
พิกัด : https://goo.gl/maps/NSf2HvusNir

มาชมคลิปกัน

 

วันนี้เรามีไฟล์ทต้องเดินทางไปยังเกาะใต้บ้าง โดยเรานั่งเครื่องบินของสายการบิน Air New Zealand ไปยังเมือง Queenstown

บนเครื่องมีกิจกรรม Lolly Runner ชวนให้เด็กๆเป็นแอร์โฮสเตส เดินแจกลูกอมให้กับผู้โดยสารด้วย

ถึง Queenstown ก็เข้า Check in โรงแรมกันก่อนเลยนะ

เราพักกันที่ The Rees Hotel and Luxury Apartments โรงแรมสวยมาก อยู่ริมทะเลสาบเลย ฟินจ้า

ประมาณเย็นๆ เรามีนัดล่องเรือโบราณ TSS Earnslaw กัน

โดยเรือ TSS Earnslaw เป็นเรือโบราณเก่าแก่ เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1912 อายุร้อยกว่าปี เรือลำนี้ยังใช้เครื่องยนต์ไอน้ำ โดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง

ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็จะสามารถชมวิวทะเลสาบ Lake Wakatipu และภูเขาสวยๆได้ตลอดทาง

จุดหมายของวันนี้คือ Walter Peak ซึ่งเป็นบ้านสไตส์ Colonel ริมทะเลสาบ

วิวจากตรงนี้มองไปที่เรือ TSS Earnslaw สวยดั่งภาพวาดเลย

เรามาบุฟเฟ่ต์ดินเนอร์กันที่นี่ อาหารก็จะเป็นทั้งอาหารทะเล และสลัด ทีเด็ดคือ หมูกรอบอร่อยมากเลยครับ

ดินเนอร์อิ่มท้องกันแล้ว ก็ได้เวลาไปดูโชว์โกนขนแกะกัน แกะนี่น่าสงสารมาก ไม่มีอาวุธป้องกันตัวอะไรเลย ใครจะทำอะไรกับชั้นก็ได้

ช่วงท้ายๆ จะมีให้น้องหมา Sheep Dog ต้อนฝูงแกะบนภูเขามาให้ดูกันด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติมของ TSS Earnslaw และ Walter Peak : http://www.tssearnslaw.co.nz/ / https://www.newzealand.com/us/plan/business/walter-peak-high-country-farm-real-journeys/
พิกัด : https://goo.gl/maps/ctHNAq1vB9F2

มาชมคลิปกันครับ

 

เช้าวันใหม่ เราเริ่มต้นวันด้วยการพาครอบครัวมาทำกิจกรรมยอดฮิตอย่างเรือ SHOTOVER JET กัน

เรือ SHOTOVER JET จะแล่นไปด้วยความเร็วสูง เรียกว่าหลังติดเบาะเลย ตลอดเส้นทา งคือ แม่น้ำสายแคบๆ แล่นเฉียดโขดหิน บางครั้งเราจะได้ยินเสียงท้องเรือกระแทกกับก้อนหินด้วยนะ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยนะครับ เค้าค่อนข้างใส่ใจเรื่องนี้มากๆ

ไฮไลท์คือการสะบัดหมุน 360 องศาของเรือ คือตื่นเต้นเร้าใจตลอดเส้นทางครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม SHOTOVER JET : https://www.shotoverjet.com/
พิกัด : https://goo.gl/maps/wDqjJQxZ7Ss

มารับชมกันว่าสนุกแค่ไหน

 

ไฮไลท์ของทริปต่อมา คือการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปชมวิวทิวทัศน์ของเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์กัน โดยเส้นทางคือมุ่งไปยัง Milford Sound แล้ว Landing ลงสองจุดให้ถ่ายภาพกัน

สำหรับคุณนายแอนและน้องเกรซน้องกาย นี่คือการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ครั้งแรกในชีวิต แต่ละคนจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ

เวลาอยู่บนเครื่องเฮลิคอปเตอร์ เราจะต้องใส่หูฟังแล้วพูดผ่านไมค์โครโฟน เพราะเสียงใบพัดดังมาก

พอเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นมาก็โชว์วิวทิวทัศน์กับสวยงามแบบเกินคำบรรยายครับ

เรียกว่าสวยจนลืมหายใจเลยก็ว่าได้

นักบินพาเครื่องร่อนลงครั้งแรกบริเวณทะเล Tasman Sea ที่กั้นระหว่างนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย

ที่จริงสวยมาก เสียดายที่จะมีพวก Sandfly ซึ่งอาศัยอยู่เยอะมากบริเวณนี้มารบกวนพวกเราตลอด ฉีดยาป้องกันช่วยได้เล็กน้อย แต่ทนไม่ไหวจริงๆ ไปที่อื่นกันดีกว่า

เครื่องออกบินอีกครั้ง คือวิวก็ยังสวยงดงามดั่งภาพวาดเช่นเคย

นักบิน Landing ให้เราลงมาอีกครั้ง คราวนี้เป็นบริเวณภูเขา

งานนี้เลยได้ภาพครอบครัวสวยๆกลับไปเพียบเลย

ผมเป็นคนที่ชอบอุ้มภรรยาครับ และผมก็ได้สัญญากับเธอไว้ว่า ผมจะพาเธอไปอุ้มทั่วทุกแห่งของโลกใบนี้…

และนี่ก็เป็นการอุ้มที่สวยที่สุดอีกครั้งหนึ่ง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยนับหรอกนะว่าฉันอุ้มเธอไปกี่ครั้งแล้ว แต่เชื่อฉันนะ ตราบใดที่ฉันยังมีแรง ผู้ชายคนนี้จะยังคงทำตามสัญญาที่ให้เธอไว้อย่างแน่นอน…

My promise is only for YOU… My love…

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.flynz.co.nz/
พิกัด : https://goo.gl/maps/8XcxjCh7pKE2

สวยแค่ไหน ไปชมคลิปวิดีโอกันครับ

 

ช่วงบ่ายเราไปทำกิจกรรมกันที่ Skyline Gondola Queenstown กัน

ห้องอาหารที่นี่วิวสวยมากครับ

วันนี้เราชวนเด็กๆมาเล่น Zipline กัน กับ Ziptrek Moa 4-Line Ecotours

คอร์สของเราจะมีการโหน 4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งก็ค่อนข้างเร็วนะครับ กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป

เมื่อโหนเสร็จแต่ละครั้งก็จะมีสาระน่ารู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้เราอ่านหรือฟังด้วย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ไฮไลท์คือเชือกครั้งสุดท้าย ยาวและวิวสวยมากๆเลย

รายละเอียดเพิ่มเติม Ziptrek Moa 4-Line Ecotours : https://www.ziptrek.co.nz/tours/
พิกัด : https://goo.gl/maps/rzaSUsvDaxF2

กิจกรรมบน Skyline ยังไม่จบนะ นั่งกระเช๊าต่อไปเล่น Luge กันต่อดีกว่า

มาชมคลิปเล่น Zipline และ Luge กันดีกว่า

 

ทำกิจกรรมกันหมดวัน กลับที่พัก นอนหลับเป็นตาย

เช้าวันใหม่ เราเดินทางต่อมายัง Lake Wanaka ครับ ตรงนี้คือ Lone Tree of Lake Wanaka

วันนี้เรามีคิวต้องไปนั่งรถโฟร์วิวไดร์ฟ ออกไปซาฟารีกัน

บริษัทรถเป็นของ Ridgeline Adventure 4WD Safari ทัวร์จะเริ่มออกจากในเมือง Wanaka

จากนั้นจะวิ่งตรงมายังฟาร์มแห่งหนึ่งที่ใหญ่มาก ที่ฟาร์มจะมีให้เด็กๆได้ให้อาหารแกะและอัลปาก้าด้วย

วิ่งตรงเข้าไปในหุบเขา เส้นทางค่อนข้างขุรขระเล็กน้อย

จากในรถเราจะสามารถมองเห็นฝูงกวางฝูงใหญ่ด้วย

คนขับรถพาเราขึ้นมาชมวิวบนภูเขา

เค้ามีเตรียมชุดปิกนิคเล็กๆ มีชา กาแฟ Hot Chocolate พร้อมกับฟรุ๊ตเค้ก ทานกันไปชมวิวกันไปครับ

วิวบริเวณนี้สวยมากจริงๆ

และถ้าเราสังเกตดีๆ ฟาร์มที่นี่ เจ้าของเค้าจะวางกับดักพวกสัตว์ที่ชอบมาขโมยไข่ ถ้าใครเข้าไป เสร็จแน่นอนครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมของ Ridgeline Adventure 4WD Safari Farm Tour : https://www.ridgelinenz.com/

เชิญรับชมคลิปกัน

 

ช่วงบ่ายเราจะต้องเดินทางไปต่อ แวะเดินเล่นถ่ายภาพที่เมืองเล็กๆน่ารักๆระหว่างทางที่ชื่อ CARDRONA

ที่แปลกดี คือ อยู่ๆก็มีจุดที่คนเอายกทรงมาแขวนเต็มรั้วเลย

ถามไกด์ได้ความว่า เค้ารณรงค์เพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านมกันครับ แปลกดี

จุดแวะระหว่างทางอีกจุดที่แนะนำคือ Blue Pools ครับ น้ำที่นี้ละลายมาจากธารน้ำแข็ง จึงมีแร่ธาตุบางอย่าง ทำให้น้ำมีสีฟ้าใส สวยงามมากๆเลยครับ

เห็นฝรั่งเค้าลงเล่นน้ำกันด้วยนะ แต่ครอบครัวเราไม่ไหวอ่ะ น้ำเย็นเกินไป ขอยืนถ่ายรูปแถวนี้ก็พอครับ

เดินทางต่อมายังจุดหมาย Franz Josef Glacier ที่จริงเรามีจองขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปลงเดินที่ธารน้ำแข็งนะครับ

แต่โชคไม่ดีที่สภาพอากาศวันที่ไป เมฆเยอะเกินไป เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่เค้าเลยงดบินครับ อดเลย เซ็งและผิดหวังมาก ต้องเก็บไว้ซ่อมคราวหน้าอีกแล้ว

มุ่งหน้าผ่านสายฝนที่ตกไม่หยุดของ West Coast หลายชั่วโมง มายังเมือง Greymouth

เรามาที่สถานีรถไฟฟ้า เพื่อรอจะขึ้นรถไฟสาย TranzAlpine เพื่อเดินทางต่อไปยังเมือง Chirstchurch

รถไฟสาย TranzAlpine เป็นหนึ่งในทางรถไฟที่เป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของวิวทิวทัศน์ ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ในการเดินทางจากเมือง Greymouth มุ่งหน้าสู่ Chirstchurch ผ่านใจกลางของเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์

ในรถไฟก็มี Café เล็กๆ มีอาหารร้อน คาวหวาน เครื่องดื่มจำหน่ายด้วย

มันสวยแค่ไหน ไปชมกัน

 

เราใช้เวลาเล็กน้อยใน Chirstchurch ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย

การเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศนิวซีแลนด์ครั้งนี้ ก็ทำให้รู้ว่านอกจากประเทศแห่งนี้จะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรมมากมายที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ใหม่ๆเหมาะกับทุกคนในครอบครัว

ขอขอบคุณสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส Singapore Airlines และสายการบินแอร์นิวซีแลนด์ Air New Zealand ที่สนับสนุนการเดินทางครั้งนี้

ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านและเยี่ยมชมรีวิวนี้ หวังว่าจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อย วันนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกับการเดินทางใหม่ๆของครอบครัว 2 Madames ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ

ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share

หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้ 

หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า

อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ