2Madames.com

Leave a Comment

ทริปพาภรรยาไปฮันนีมูนที่มัลดีฟส์ในโอกาสพิเศษครบรอบ 14 ปีที่ได้พบกัน เราจะพาไปพักบนวิลล่ากลางน้ำที่สวยงามของรีสอร์ท Sun Aqua Vilu Reef และ Sun Siyam Iru Fushi รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว หาดทรายขาว น้ำทะเลใสสุดๆ จะสวยงามแค่ไหน ตามไปรับชมรีวิวกันครับ

ทริปนี้เป็นทริปที่พวกเราติดตามคุณต้นเจ้าของหนุ่มสาวทัวร์เพื่อไปทำการ Inspection รีสอร์ทในเครือ Sun Siyam ทำให้มีการพักถึง 2 รีสอร์ท ซึ่งรายละเอียดของราคาจะอยู่ด้านล่าง ถ้าใครสนใจที่พักในรีวิวนี้ สามารถติดต่อจองได้ที่หนุ่มสาวทัวร์ http://www.noomsaotours.co.th/ หรือ http://www.facebook.com/NoomSaoTours/ หรือ 02-625-1555 ได้โดยตรงเลยครับ

ใครขี้เกียจอ่านตัวหนังสือก็สามารถชมรีวิวในรูปแบบคลิปได้เลยจ้า

 

ทริปนี้บินด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดในการไปมัลดีฟส์ เพราะเป็นการบินตรงจากกรุงเทพสู่มาเล่เมืองหลวงของประเทศมัลดีฟส์เลย

ความดีงามของการบินด้วยสายการบิน Bangkok Airways ก็คือมีห้องรับรอง พร้อมอาหารร้อนและเครื่องดื่มแบบจัดเต็มครับ เรียกว่าอิ่มอร่อยก่อนขึ้นบินได้เลย

ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินมาเล่ แต่เราจะต้องนั่งเครื่องบินน้ำหรือ Sea Plane ของ Trans Maldivian Airways ต่อไปยังรีสอร์ท Sun Aqua Vilu Reef ที่อยู่ทางใต้ก่อน

มี Shuttle Bus พาพวกเรามายังสนามบินน้ำอีกที ซึ่งตารางบินจะบินไม่แน่นอนเหมือนสนามบินทั่วไป จะมีการยืดหยุ่นในการรอผู้โดยสารที่จะเดินทางไปในเส้นทางเดียวกันมาจนครบก่อน หรืออาจจะขึ้นกับสภาพอากาศว่าเอื้ออำนวยแก่การบินด้วยหรือไม่

โดยเฉลี่ยอาจจะต้องรอประมาณ 30-90 นาที โดยผู้โดยสารที่พักกับ Sun Aqua Vilu Reef หรือ Sun Siyam Iru Fushi ก็จะสามารถเข้าไปรอในห้องรับรองของรีสอร์ทได้

ภายในห้องรับรองก็จะมีอาหารและเครื่องดื่มไว้ให้แขกด้วย

ใครที่รอแล้วเมื่อย ก็สามารถใช้บริการนวดบ่าไหล่ได้ฟรีประมาณ 10 นาที เพลินๆระหว่างรอขึ้นเครื่อง Sea Plane

และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่องบินน้ำเสียที และนี่เป็นการขึ้น Sea Plane ครึ้งแรกของผมและภรรยาด้วย

บนเครื่องบินน้ำไม่มีแอร์นะ แต่ลมเย็นมาก ไม่ร้อนเลย มีเสียงดังจากใบพัดหน่อย แต่ที่สำคัญคือ วิวจากบนเครื่องบินมันสวยมาก เราจะสามารถเห็นทะเลสวยๆได้ตลอดการเดินทางเลยทีเดียว

บอกเลยว่าฟินจนลืมหยุดหายใจเลยทีเดียว

ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็ถึงที่พักของพวกเรา Sun Aqua Vilu Reef

แว่บแรกที่รู้สึกคือน้ำทะเลมันสีสวยใสสะอาดมาก

มีที่นั่งไว้ชมทะเลชิลด์ๆด้วย

ทะเลมัลดีฟส์เนี่ยสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์มาก เราสามารถมองลงไปเห็นปลาต่างๆ แต่ที่คนไทยจะตื่นเต้นหน่อยก็จะเป็นพวกฉลามตัวเล็กๆ หรือแม้กระทั่งมีปลากระเบนมาว่ายน้ำทักทายแบบนี้เลย ปลากระเบนพวกนี้เชื่องคนมากเพราะเค้าจะมีให้อาหารทุกเย็นเลย

สระว่ายน้ำหลักมองเห็นทะเลด้วย

หาดทรายละเอียดมากเลย

ห้องพักของอินกับแอนเป็นวิลล่ากลางน้ำ ห้องพักของเราอยู่กลางทะเลเลย เป็นห้องพักประเภท Sunset Reef Villa พื้นที่ประมาณ 78 ตร.ม. กว้างขวางไม่อึดอัด

เข้ามาจากประตูจะมีโต๊ะเครื่องแป้งกับมินิบาร์

โซนห้องนอน

มีโซฟาให้นั่งเล่นกัน ผลไม้ต้อนรับทานฟรีครับ แต่ไวน์จะมีค่าใช้จ่ายนะครับ

ในห้องพักก็จะเชื่อมต่อไปยังระเบียงของห้องได้

ไฮไลท์เด็ดคือ วิวของห้องพักสามารถมองเห็นมหาสมุทรที่กว้างไกลสุดสายตา แถมวิลล่ายังมีวิวพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามสุดๆ

บอกตรงๆว่าอยู่ตรงนี้แล้วไม่อยากทำอะไรอย่างอื่นเลย นอกจากเหม่อมองทอดอารมณ์เนิ่นนาน และใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารักเท่านั้น

จากห้องพักสามารถเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้เลยนะ

ระเบียงห้องพักกว้างพอสมควร จะนอนเล่นชมวิวมหาสมุทรก็ได้ มีอ่างแช่ตัวด้วยนะ

กลับมาด้านในห้องจะมีตู้เสื้อผ้าหน้าห้องน้ำ

ห้องน้ำกว้างขวางดี

ออกมาถ่ายภาพกันหน้าวิลล่ากลางน้ำกันหน่อย

ผมเป็นคนที่ชอบอุ้มภรรยาครับ และผมก็ได้สัญญากับเธอไว้ว่า ผมจะพาเธอไปอุ้มทั่วทุกแห่งของโลกใบนี้
และนี่คืออุ้มครั้งสำคัญสุดพิเศษในโอกาสครบรอบ 14 ปีที่ได้พบเจอกัน

You are my sunshine. My only sunshine

ตกเย็นไปล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินกัน

พอฟ้ามืดก็จะตกปลากัน ปลาชุกมาก ตกได้เยอะสุดๆ

ค่ำแล้วมาทานอาหารดินเนอร์กันที่ภัตตาคาร The Wine Cellar เริ่มจากเมนู Amuse Bouche กับเมนูปอเปี๊ยะล็อปสเตอร์ทอดสไตล์มัลดีฟส์ และปอเปี๊ยะกุ้งสไตล์เวียตนาม ทานกับซอสพริกรสชาติคล้ายๆน้ำจิ้มไก่ อร่อยดีนะ

มาต่อด้วยหอยเชลล์ฮอกไกโดย่าง ราดซอสฮันนี่มัสตาส

เนื้อออสเตรเลียเทนเดอลอยน์ นุ่มมากย่างมาได้ดีทีเดียว

ของหวานเป็นโดมช็อคโกแลตขาว ด้านในเป็นช็อตโกแลตลาวา เวลาทานราดด้วนไซรัปอุ่นๆ ให้ช็อคโกแลตขาวละลาย เก๋ไก๋มาก

ส่วนอาหารปกติก็สามารถทานได้ที่ห้องอาหารหลักของรีสอร์ทได้เลย

จบภาพสุดท้าย ถ่ายภาพคู่กันบนต้นมะพร้าวที่ Sun Aqua Vilu Reef กันนะครับ

ทริปนี้เราติดตามคุณต้นเจ้าของหนุ่มสาวทัวร์ไปพักผ่อนกันต่ออีกรีสอร์ทที่ Sun Siyam Iru Fushi Maldives ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของมาเล่ไปราวๆ 1 ชั่วโมง ซึ่งวิธีการเดินทางต้องนั่ง Sea Plane ไปอีกเช่นกัน

Sun Siyam Iru Fushi เป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาวที่มีพื้นที่เยอะมาก (เดินไม่ไหว ไปไหนมาไหนต้องเรียกรถกอล์ฟมารับเลยครับ)

ภาพนี้คือล็อบบี้ของที่ Sun Siyam Iru Fushi ครับ

มีหมากรุกยักษ์ไว้ให้เล่นด้วยนะ เก๋มากๆ

คืนนี้พักกันที่ Water Villa อีกแล้วจ้า

เข้ามาจะเจอกับมินิบาร์ก่อนเลย

ห้องนอนกว้างมาก บ้านนี้มีพื้นที่ถึง 85 ตร.ม.

เปิดทีวีมามีหนังให้ดูฟรีเพียบครับ

เตียงนอนหันออกไปวิวมหาสมุทรแบบนี้

ไฮไลท์เด็ดก็คือ ระเบียงและห้องน้ำที่มีอ่างจากุสซี่มองเห็นวิวมหาสมุทรน้ำทะเลสีฟ้าใสสุดลูกหูลูกตา

แถมพื้นห้องพักยังมีช่องหน้าต่างสามารถมองทะลุไปยังพื้นน้ำได้อีกด้วย แม้กระทั่งห้องขับถ่ายหรือห้องอาบน้ำก็ยังมีช่องให้ดูน้ำทะเลด้วยเลยนะ เริ่ดและเก๋จริงๆ

มีแชมเปญให้ฟรี พร้อมผลไม้ต้อนรับด้วย

ห้องน้ำใหญ่โต มีสองอ่าง His&Her ไม่ต้องแย่งกัน

ห้องขับถ่ายยังมองเห็นน้ำทะเลได้เลย

ทุกอย่างหรูหรามาก

มี Amenities ครบครัน

มีอ่างแช่ตัวที่มองเห็นวิวมหาสมุทร ดีงามมาก

ข้อดีของการมาพักผ่อนที่มัลดีฟส์ คือหัวสมองจะว่างๆ ไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมาก บางครั้งนั่งชมทะเลในห้องพักเฉยๆ ก็ยังรู้สึกว่าผ่อนคลายแล้ว แต่ข้อดีที่สุดจริงๆ คือการได้ใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารักตลอดต่างหาก

พาไปชมรอบๆ Sun Siyam Iru Fushi กันบ้าง บริเวณนี้คือหาดตรงท่าเรือครับ ช่วงที่ไปโชคดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใสสุดๆ

เปลริมทะเลเหมาะกับการถ่ายแบบมาก

จัดไปนะ คุณนายแอน โพสท่าทางต่างๆ ไว้โพสภาพใน Facebook

ช่วงเย็นๆจะมีการให้อาหารปลาฉลามโชว์แขกที่มาพักด้วย

ซึ่งปลาฉลามตัวใหญ่จนตะลึงเลย แต่ไม่ต้องตกใจนะ เจ้าหน้าที่บอกว่าฉลามพันธุ์นี้เป็นฉลาม Reef Shark ที่ไม่ทำร้ายมนุษย์ครับ (แต่ผมก็ยังแอบหวั่นใจ เกรงใจความเป็นฉลามของมัน 555)

ในส่วนของมื้อกลางวันแบบ Full Board นั้น จะเลือกทานได้จาก 3 ห้องอาหารที่ระบุ โดยวันนี้พวกเราทานกันที่ห้องอาหาร ISLANDER’S โดยเป็นคอร์ส 3 อย่าง ให้เลือกซุป จานหลัก และของหวาน

จานหลักจานแรกเป็น Fried Tuna Cutlet ปลาทูน่าชุบแป้งทอดทานกับซอสมะม่วง

จานหลักอีกจานสั่งเป็น Calamari จานใหญ่มาก ปลาหมึกสดมาก แต่ทอดมาแป้งนิ่มไปหน่อย

จานนี้เป็นของหวาน หน้าตาดูดีทุกจาน

ของหวานอีกจานเป็น Caramel Chocolate Tart ทานกับไอศกรีมรสกล้วย ไอศกรีมละลายไปหน่อย เพราะอากาศค่อนข้างร้อน

เย็นๆออกไปนั่งเรือชมโลมากัน (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะ)

เรือวิ่งไปอยู่นาน วนแล้ววนอีกจนตอนแรกพวกเราถอดใจไปแล้วว่าคงไม่เจอโลมาแน่ๆ แต่สุดท้ายก็เจอฝูงโลมามากระโดดทักทายอยู่ข้างๆเรือจริงๆ สนุกมากและตื่นเต้นมากเลย

เจอโลมาแล้วต้องจิบแชมเปญฉลองกันหน่อยนะ

ปิดท้ายด้วยภาพแห่งความสุขแบบสองเรา

14 ปีที่แล้ว ฉันเจอเธอในวันที่เราทั้งสองยังเยาว์วัยนัก ในวันนั้นฉันเป็นแค่พนักงานฝึกงาน ส่วนเธอคือนักศึกษาปี 4 ที่มาออกเดทกัน

14 ปีผ่านไป วันนี้เธอเป็นทั้งคู่ชีวิตและแม่ของลูก ที่อยู่เคียงข้างกันตลอด คราบน้ำตาในวันที่แสนเหนื่อยยาก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะในวันที่แสนสุข

ขอบคุณที่ดูแลฉันกับลูกๆอย่างดีเสมอมา ฉันก็สัญญาว่าจะดูแลเธอให้ดีที่สุดเช่นกัน

Happy 14th Anniversary “รักแรกพบไม่รู้มีอยู่จริงมั้ย แต่ที่มั่นใจว่ามีอยู่จริงก็คือรักตลอดไปต่างหาก

สำหรับใครที่สนใจเดินทางไปพักผ่อนที่มัลดีฟส์ที่รีสอร์ท Sun Siyam Iru Fushi

เข้าพักระหว่าง Nov 1 – Dec 26,2017 / April 9 – July 31,2018
อาหารเช้า / อาหารเช้าและเย็น / อาหารเช้า,กลางวันและเย็น
Beach Villa package 51,900 / 67,500 / 77,900
Water Villa package 56,900 / 72,900 / 83,200

เข้าพักระหว่าง JAN 8 – APR 9, 2018
อาหารเช้า / อาหารเช้าและเย็น / อาหารเช้า,กลางวันและเย็น
Beach Villa package 58,900 / 74,900 / 85,300
Water Villa package 63,900 / 80,900 / 90,900

ราคานี้รวม
ตั๋วเครื่องบินบางกอกแอร์เวย์ ไป-กลับ กรุงเทพ-มาเล่
นั่ง Seaplane ไป-กลับ มาเล่-รีสอร์ท
มื้ออาหารตามแพ็คเกจ
Service charge & GST 12%
Green tax USD 6 /day/person

จองได้ที่ http://www.facebook.com/NoomSaoTours/ หรือ 02-625-1555

ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share

หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้ 

หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า

อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ