2Madames.com

1 Comment

ความเดิมตอนที่แล้ว… เยี่ยมชมสนาม i mobile Stadium นอนเล่น Amari Buriram United
หลังจากเที่ยวในตัวเมืองบุรีรัมย์กันไปแล้ว ตอนนี้จะพาไปเที่ยวต่อที่ปราสาท 2 ปราสาทของจังหวัดบุรีรัมย์ และพาไปหาของอร่อยทาน รวมทั้งแวะซื้อของฝาก OTOP กลับไปฝากคนที่กรุงเทพด้วย ตามไปเที่ยวกันเลยเนอะ

พวกเราแวะมาที่ ธาดา ชาโตว์ Thada Chateau ด้านหน้าจะมีแกะเลี้ยงอยู่ ซึ่งสามารถซื้ออาหารจากด้านในร้านกาแฟมาป้อนแกะได้ด้วย

เข้ามาในร้านกาแฟของที่นี่ เค้าขายทั้งเครื่องดื่มและอาหารด้วยนะ

เด็กๆจองที่กันก่อนเลย

อาหารเค้าไม่แพง รสชาติใช้ได้ครับ เรามาเริ่มกันที่เมนูเด็กๆกันอีกตามเคย ข้าวไก่ทอดราดซอส

สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งกุ้ง รสชาติออกหวานไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าดีเลย

ข้าวราดไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ รสชาติเข้มข้นดีครับ โป๊ะไข่ดาว เพิ่มโปรตีนกันอีกสักนิดด้วย

แล้วก็ข้าวราดหมูอบ

จบของคาว แล้วก็ล้างปากกันด้วยของหวานอีกตามเคย วันนี้เลือกทาน เค้กสีรุ้ง เนื้อเค้กร่วนไปสักนิด ส่วน Blue berry cheese pie ส่วนฐานพายร่วนไปหน่อย แต่ทีเด็ดอยู่ที่โกโก้เข้มข้นจ้า

ของฝากแรกที่ไม่ควรพลาดหากมาจังหวัดบุรีรัมย์ คือ ขนมเทียนแก้วครับ เส้นทางอธิบายลำบาก ใครอยากกินโทรไปถามทางเลยดีกว่าครับ เตือนไว้ว่าของหมดเร็วมาก โชคดีที่ผมยังมีโอกาสได้ชิม เพราะเหลือ 2 กล่องสุดท้ายพอดี

ขนมเทียมเนื้อนุ่ม ตัวเนื้อแป้งใสๆหอมกลิ่นใบเตย ส่วนไส้เป็นไส้ถั่วเนื้อเนียนๆ ทำสดๆๆลูกค้าแย่งกันซื้อทุกวัน

หลังจากเที่ยวในตัวเมืองพอสมควร เราออกเดินทางไปเที่ยวปราสาทหินพนมรุ้งกันต่อ

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือ ปราสาทหินพนมรุ้ง ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยโบราณสถานสำคัญ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ (ประมาณ 350 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) คำว่า พนมรุ้ง นั้น มาจากภาษาเขมร คำว่า วนํรุง แปลว่า ภูเขาใหญ่

ปัจจุบัน ปราสาทหินพนมรุ้งกำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับ ปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกด้วย

พวกเรามาแล้ว เย้ๆ

จ๊ะเอ๋

คุณนายแอนนางแบบส่วนตัวของผม

ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นโบสถ์พราหมณ์ลัทธิไศวะ มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 และในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นวัดมหายาน ในช่วงแรกปราสาทหินพนมรุ้ง สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้งสูง 1,320 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ชื่อพนมรุ้งแปลว่าภูเขาใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15-18

โคนนทิ เป็นประติมากรรมวัว ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางของปราสาทประธานเคียงข้างกับศิวลึงค์ โคนนทิ คือ พาหนะของพระศิวะ โคนนทิเป็นบุตรของพระกัศยปกับโคสุรภี พระศิวะเห็นโคสุรภีก็อยากจะได้เป็นบริวารแต่รังเกียจว่าเป็นเพศเมีย พระกัศยปจึงอาสาผสมพันธุ์กับโคสุรภี จึงให้กำเนิดเป็นวัวเพศผู้ชื่อว่า “นนทิ” แล้วถวายเป็นบริวารของพระศิวะ ทำหน้าที่เป็นผู้เฝ้าประตูวิมานบนเขาไกรลาสด้านทิศตะวันออกคู่กับมหากาลและทำหน้าที่เป็นเทพพาหนะเมื่อพระศิวะเสด็จออกภายนอก

ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์

ด้านหน้าทางเข้าปราสาทหินพนมรุ้ง

อาตี๋น้อยกายล้วงกระเป๋าซะเท่เลย

ภาพสุดท้ายก่อนไปเที่ยวที่อื่นต่อ

ไม่ไกลจากปราสาทหินพนมรุ้ง พวกเราเดินทางกันต่อมายังปราสาทเมืองต่ำ

ปราสาทเมืองต่ำเป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดูสันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้น เพื่อถวายพระศิวะ มีลักษณะเป็นศาสนสถานประจำเมืองหรือประจำชุมชน ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดปราสาทบูรพาราม ตำบลจระเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยคำว่า เมืองต่ำ นี้ไม่ใช่ชื่อดั้งเดิม แต่เป็นชื่อที่ชาวพื้นเมืองเรียกโบราณสถานแห่งนี้ เพราะปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นราบ ส่วนปราสาทพนมรุ้งตั้งอยู่บนเชิงเขา ซึ่งทั้งปราสาทเมืองต่ำและปราสาทพนมรุ้งอยู่ไม่ห่างกันมาก คือห่างกันเพียง 8 กิโลเมตร มวลสารวัตถุจากโบราณสถาน และโบราณวัตถุในที่นี้ รัชกาลที่ 9 ได้ทรงนำมาเป็นส่วนประกอบในการทำพระสมเด็จจิตรลดา ปราสาทได้รับอิทธิพลศิลปะขอมแบบคลัง และแบบบาปวน มีอายุประมาณครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 16

อากาศร้อนใช้ได้เลย แต่ลูกทัวร์ผมยังสู้ทุกคน

ปราสาทเมืองต่ำสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในศิลปะบาปวนตอนต้น และลดความสำคัญลงไปในราวพุทธศตวรรษที่ 18 และถูกทิ้งร้างในที่สุด จนเมื่อราวปี พ.ศ. 2490 จึงเริ่มมีการอพยพเข้ามาของชาวบ้าน มาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้อีกครั้งหนึ่ง

หลังจากแวะเที่ยวชมปราสาททั้งสองแห่งเสร็จ พวกเราขับรถมุ่งหน้าสู่อำเภอนางรอง เพื่อหาของอร่อยทานกัน ขับมาสักพักได้เจอชุมชนหนึ่ง เรียกได้ว่าทำกล้วยฉาบเก่งกันทั้งหมู่บ้านเลยละมั้ง ขับรถผ่านเห็นตั้งเพิงขายกันหน้าบ้าน ขายทั้งปลีกและส่งเลย พวกเราเลยแวะลงไปชิม ช็อป กันเหมือนเคย

แวะชมกระบวนการผลิตเสียหน่อย เห็นชาวบ้านเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำกล้วยฉาบกันใหญ่เลย

อุปกรณ์พร้อม

กล้วยฉาบก็เป็นอีกสินค้า OTOP ที่รายอาชีพและรายได้ให้กับชาวบ้านแถวนี้

ร่วมแรงร่วมใจกัน ขยันขันแข็ง เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน เกิดเป็นกล้วยฉาบหลากหลายรสชาติ

พอเริ่มขับเข้าสู่ตัวอำเภอนางรอง จะเห็นป้ายร้านบ้านขนมเชิญชวนนักท่องเที่ยวเป็นระยะ ขอแวะชมเสียหน่อย ว่ามีอะไรน่าสนในแวะซื้อกลับไปเป็นของฝากบ้าง

แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย เพราะที่นี่รวบรวมของฝากขึ้นชื่อที่เป็นสินค้าโอท็อประดับจังหวัดไว้ทั้งนั้น น่าทานหลายอย่างเลย

ผมแนะนำอยากให้ชิม เค้กวนัมรุงสินค้าโอท็อป 5ดาว เป็นเหมือนขนมเค้กไข่เนื้อเนียนนุ่มนิ่ม สอดไส้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไส้คัสตาส ครีมกาแฟ รสส้ม อร่อยมากเลยละ เสียดายซื้อน้อยไปหน่อย เพราะเด็กๆแย่งกันทานใหญ่เลย

ส่วนขนมไทยๆ ก็อร่อยใช้ได้เลยครับ

ขนมโสมนัสของร้านนี้ ก็ขึ้นชื่อนะ

กุ้งจ่อมก็ขึ้นชื่อ เห็นคนแวะซื้อแต่สิ่งนี้กันทั้งนั้น แต่ผมทานไม่เป็นฮะ เลยขอบาย

และแล้วก็มาถึงสักที ร้านนี้อยากแนะนำ เพราะเป็นสินค้าโอท็อปชื่อดังของจังหวัดบุรีรัมย์เช่นกัน

ขาหมูร้านจิ้งนำ เนื้อนุ่มมาก รสชาติเข้มข้นทีเดียวเลยล่ะ

ร้านนี้ไม่ได้มีเพียงแต่ขาหมูนะครับ เห็นโต๊ะอื่นมาทานสั่งอาหารกันหลายอย่างเลย แต่บ้านนี้ทานน้อย เลยสั่งยำวุ้นเส้นอีกจาน จานนี้เป็นอาหารหลักของคุณนายใหญ่ เพราะเธอกำลังลดน้ำหนักอยู่ครับ สังเกตช่วงนี้ถ่ายรูปแล้วอืดมาก 555

ขึ้นชื่อว่าเป็นถึงสินค้าโอท็อป ถ้าสั่งกลับไปเป็นของฝาก ที่ร้านก็จะจัดเตรียมเป็นชุดๆขายแบบนี้เลย ใส่ถุง แปะชื่อเสียงเรียงนามเรียบร้อย

และก็จบทริปบุรีรัมย์ของพวกเราไปอย่างสมบูรณ์

ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า

อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ