![Music Square, มิวสิค สแควร์, มิวสิคสแควร์, มหาลัยมหิดล, Mahidol University, ศาลายา, Salaya, ร้านอาหาร, ถนนบรมราชชนนี,วิทยาลัยดุริยางคศิลป์, พุทธมณฑล , นครปฐม, มหาวิทยาลัยมหิดล, ห้องกระจกในเรือนไม้, อาหารฝรั่ง, อาหารไทย, พุทธมณฑล สาย 4, ร้านเงียบ, บรรยากาศดี, มหิดลสิทธาคาร, ร้านอาหารในมหาวิยาลัย, ม. มหิดล ร้านอาหาร, อาหารอร่อย, ราคาไม่แพง, บรรยากาศร่มรื่น, ร้านอาหารในสวน, จิบกาแฟ, ทานอาหาร, restaurant around salaya, restaurant in Mahidol University, อาหารดีมีคุณภาพ, ราคาเหมาะสม, oper air restaurant, music square ศาลายา, มิวสิคสแควร์ ศาลายา, Music Square pantip, มิวสิคสแควร์ pantip, Music Square พันทิป, มิวสิคสแควร์ พันทิป, ร้านอาหารบรรยากาศดี, ร้านอาหารโรแมนติก, มิวสิค สแควร์ พันทิป, มิวสิค สแควร์ pantip](http://www.2madames.com/wp-content/uploads/2014/07/MusicSquareBanner.jpg)
![ติดตามพวกเราบน Facebook](http://www.2madames.com/wp-content/uploads/2017/06/Banner-Header-Facebook.jpg)
สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน วันนี้เหมียวๆจะพาไปชิมอาหารบรรยากาศดีในมหาวิทยาลัยมหิดล ที่เหมียวๆเคยศึกษาและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายปี เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาก็เพิ่งจะมีการรับปริญญาบัตรกันไป เหมียวๆได้เห็นภาพถ่ายของน้องๆก็ทำให้มีความสุข ทำให้ระลึกถึงสถาบันที่เคยศึกษา และอยากกลับไปที่มหาลัยของตัวเอง นอกจากมหาลัยมหิดลจะเป็นสถานศึกษาที่รวมปัญญาของแผ่นดินแล้ว ก็ยังมีร้านอาหารบรรยากาศดีภายในมหาลัยที่เหมียวๆกำลังจะรีวืวให้ชมกันอีกด้วยค่ะ โดยที่ร้าน Music Square เค้ามี Concept ว่า “อาหารดีมีคุณภาพ ราคาเหมาะสม ในบรรยากาศที่ดี มีที่นั่งสบายเพื่อประกอบกิจกรรมดีๆ ที่เข้าถึงสังคมชาวศาลายาและบุคคลทั่วไป” ตามไปชมกันเลยค่ะ
การเดินทางมาที่มหาลัยสามารถมาได้หลายวิธีค่ะ เหมียวขออนุญาตนำข้อม้อมูลจากเวปไซด์ของมหิดลมาให้เป็นข้อมูลค่ะ
“การเดินทางมายัง วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล มาได้ 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางถนนสายเพชรเกษม เลี้ยวเข้าแยกถนนพุทธมณฑล สาย 4 (ระยะทางอีกประมาณ 10 กิโลเมตร)
เส้นทางถนนปิ่นเกล้า – นครชัยศรี เข้าได้ 3 ทาง คือ
จากสี่แยกสะพานกรุงธนฯ ตรงมาตามถนนสายปิ่นเกล้า – นครชัยศรี
จากสี่แยกสะพานพระปิ่นเกล้า ตรงมาตามถนนสายปิ่นเกล้า – นครชัยศรี
จากปากทางบางขุนนนท์ เข้ามาทางตลิ่งชันแล้วเลี้ยวซ้ายมาบรรจบกับถนนปิ่นเกล้า – นครชัยศรี
การเดินทางโดยรถประจำทาง
สาย 84 ก (คลองสาน – ม.มหิดล) มีสองแถวจากปากทางถนนพุทธมณฑลสาย 4
สาย 124 (สะพานอรุณอัมรินทร์ – มหิดล) ขึ้นได้ที่ป้ายตรงข้ามห้างพาต้า ปิ่นเกล้า
สาย 125 (สะพานกรุงธน – มหิดล) ต้นทางอยู่บริเวณสถานีรถไฟสามเสน
รถประจำทางปรับอากาศ สาย 515 ต้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ มาถึงหน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
รถตู้ (สหกรณ์กรุงเทพ – มหิดล) ขึ้นได้ที่หน้าภัตตาคารเสริมมิตร ตรงข้ามห้างพาต้า ปิ่นเกล้า
การเดินทางโดยรถไฟ ขึ้นได้ที่สถานีธนบุรี และสถานีกรุงเทพฯ โดยขบวนเที่ยวต่างๆ ซึ่งจะผ่านสถานีศาลายา เมื่อถึงสถานีศาลายาแล้วสามารถเดินเข้าทางด้านหลังมหาวิทยาลัย หรือโดยสารรถเมล์เล็กมาทางด้านหน้ามหาวิทยาลัย”
ร้าน Music Square ตั้งอยู่ในคณะดุริยางคศิลป์ค่ะ เมื่อมาถึงที่มหาลัยมหิดลแล้ว ถ้าจะไปที่ร้านจะมี 2 ทางให้เลือกค่ะ คือเข้าที่ทางเข้าด้านหน้า หรือเข้าที่ด้านข้างของวิทยาลัยค่ะ ทางแรกที่เหมียวๆจะพาไปอาจซับซ้อนสำหรับคนที่ไม่เคยไปค่ะ หลังจากที่เข้ามาทางหน้ามหาลัย เหมียวๆเลี้ยวซ้ายไปทางเขวจะเจอตึกของวิทยาลัยนานชาติ แล้วให้เลี้ยวซ้ายอีกที ขับไปจนเลยตึกธนาคารไทยพาณิชย์ไป เลี้ยวขวาก็จะเจอลานจอดรถค่ะ แล้วก็ไปที่ทางเข้าของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ซึ่งจะเดินผ่านเรีอนไทยก่อน แล้วจะเจอทางเข้าค่ะ หลังจากเดินเข้ามาแล้วเราจะไม่ข้ามสะพานนี้ไปนะคะเพราะถ้าข้ามไปก็จะไปยังตึกเรียนค่ะ ทางนี้สามารถไปได้เหมือนกัน แต่อาจจะเดินหลงได้ค่ะ พอเจอสะพานนี้ให้เลี้ยวขวาค่ะ
เลี้ยวขวามาทางนี้เลยค่ะ เดินไปตามทางเรื่อยๆค่ะ
ถึงแดดจะแรงแต่พอได้เจอร่มเงาของต้มไม้เขียวแบบนี้ รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ
เดินมาสักพักจะเจอทางเดินที่ปูด้วยไม้ ด้านข้างจะเป็นเหมือนบ่อบำบัดน้ำค่ะ ร่มรื่นมากๆ
ระหว่างเดินก็เก็บภาพไปเรื่อยๆค่ะ
แดดจ้าค่ะ ตาหยีเลย
เดินตรงมาอย่างเดียวเลยนะคะ จะเจอร้านแล้วค่ะ
ทางเข้าจะอยู่ทางขวาค่ะ
ป้ายของร้านค่ะ เหมียวๆมาถูกที่แล้ว
ตัวอาคารด้านล่างจะเป็นกระจกใสค่ะ ด้านบนเป็นเพดานไม้สูง มีต้นไม้ล้อมรอบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ภาคเหนือเลยค่ะ
ถึงเวลาตามเหมียวๆเค้าไปชม ไปชิมกันได้แล้วค่ะ
ทางร้านมิวสิค สแควร์จะมีพื้นที่ทั้งด้านนอกและด้านในห้องแอร์ให้เลือกค่ะ
เนื่องจากแดดยังแรงอยู่ เลยไม่มีใครเลือกนั่งด้านนอกเลยค่ะ ก็เลยยังไม่มีการ Set โต๊ะค่ะ
บริเวณด้านข้างของห้องอาหารค่ะ
เนื่องจากฝนเพิ่งหยุดตกไปก็เลยมีน้ำเปียกพื้นเล็กน้อย ส่วนนี้คือบรรยากาศอีกด้านของร้านค่ะ เป็นลานกว้างๆ
เข้ามาในร้านบริเวณห้องแอร์ ก็จะเจอกับเปียโน 1 หลัง ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า จะมีนักศึกษามาเล่นให้ฟังกันช่วงเย็นค่ะ สามารถเช็คลายระเอียดนี้กับทางร้านได้ค่ะ
ภายในห้องแอร์จะมีหลายมุมให้เลือกนั่งค่ะ อย่างเช่นในภาพนี้จะเป็นที่นั่งสำหรับ 2 ท่าน
หรือถ้ามาเป็นครอบครัวใหญ่ หรือมาเป็นกลุ่มเพื่อนก็สามารถนั่งตรงกลางได้ค่ะ เพราะสามารถต่อโต๊ะได้
โตะด้านข้างทั้งซ้ายและขวาจะเป็นโต๊ะติดกระจกใสค่ะ
วันที่เหมียวๆไป เหมียวๆเลือกนั่งตรงกลางของร้านค่ะ
เหมียวแอบถ่ายโต๊ะข้างๆมาให้ชม เค้าจะ Set โต๊ะไว้แบบนี้ เหมือน Fine Dining ทั่วๆไป
เบาะที่นั่งก็นุ่มนั่งสบายค่ะ
สีสดๆของดอกคาร์เนชั่นทำให้โต๊ะอาหารดูสดใสมากขึ้นค่ะ
กระดาษทิสชูและขวดเกลือ พริกไทย ก็มีวางให้ใช้ได้อย่างสะดวกค่ะ
โลโก้ของร้านบนกระดาษทิสชู
ที่เหมียวๆเลิอกนั่งตรงกลางเพราะริมหน้าต่างด้านหน้าแดดแรงมาก ถึงแอร์จะเย็นแต่สู้แสงไม่ไหวจริงๆค่ะ แต่ถ้าเป็นโต๊ะทางด้านซ้ายและขวา จะมีต้นไม้เยอะค่ะ สามารถกันแสงได้ระดับหนึ่งทีเดียวค่ะ
มองแก้วน้ำแล้วเริ่มกระหายค่ะ หาเครื่องดื่มเย็นๆมาดับร้อนดีกว่า
มาเปิดเมนู Order กันเลยค่ะ เหมียวๆไม่ได้ถ่ายราคาและ list รายการอาหารมาให้ แต่ก็สามารถเข้าไปดูในเวปไซด์ของทางร้านได้โดยตรงค่ะ
แก้วแรกมาแล้วค่ะ Ice Caramel Macchiato
เสริฟมาแบบเป็นเลเยอร์ 3 ชั้นเลยค่ะ
ชิมแล้วบอกเลยว่าหวานเย็นกำลังดีทั้งหอม และสดชื่นค่ะ
แก้วต่อไปก็คือ ราสเบอร์รี่โซดา
เสริฟโซดาแยกมาให้เทเองค่ะ
เริ่มเทกันเลยค่ะ หลังจากเทเสร็จชิมแล้วอยากบอกว่าความหวานเปรี้ยวนิดและซ่า ลงตัวมากๆ
มาดูอาหารจานแรกกันเลยค่ะ
จานนี้ก็คือก๋วยเตี๋ยวลุยสวนค่ะ ซึ่งประกอบไปด้วยปูอัด หมูสับ และผักต่างๆ
จะให้อร่อยก็ต้องราดน้ำจิ้มแซ่บๆแบบนี้ค่ะ
น้ำจิ้มแซ่บมาก ขอจิบกาแฟสักนิดนะคะ
จานต่่อไปนี้เหมียวๆชอบมากค่ะ เฟตูชินีเพรสโตซีฟู๊ดไม่เลี่ยนเลย หอมเครื่องเทศมากๆ อร่อยจนคำสุดท้ายเลยค่ะ
ลองชิมสักคำไหมค่ะ?
จานต่อไปก็อร่อยค่ะ ข้าวหมูทอดทงคัตสึด้ง
ได้รสญี่ปุ่นเลยค่ะ ถึงแม้จะใช้ข้าวหอมมะลิของไทย
เครื่องเยอะมากจานนี้คุ้มจริงๆค่ะ
จานต่อไปที่ขาดไม่ได้เลยก็คือของหวานค่ะ
เมนูที่เหมียวๆเลือกก็คือกล้วยทอดไอศรีมค่ะ ซึ่งเราสามารถเลือกรสไอศรีมได้ค่ะ
โรยช็อคโกแลต และผงไอซ์ซิ่งมาให้ยิ่งทำให้ดูน่าทาน
แหว่งไปแล้ว 1 คำ กล้วยหวานหอมกรอบกำลังดีเลยค่ะ
หม่ำๆกันเรียบร้อยก็เช็ดปากกันให้เรียบร้อยค่ะ
ถึงเวลาจ่ายเงินค่ะ อาหารอร่อยขนาดนี้แถมบรรยากาศก็ดีมากๆถือว่าไม่แพงเลยค่ะ
ทานเสร็จก็ได้เวลากลับค่ะ ตอนกลับเหมียวๆเดินออกอีกทางของร้านค่ะ เหมียวๆคือเรียกว่าด้านหลัง อยากบอกว่าใกล้และเดินง่ายกว่าทางแรกมากๆ
แค่ออกจากร้านเดินตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอทางเข้าค่ะ ในภาพเห็นเหมียวๆลิบๆไหมค่ะ
ถ้าเดินเข้ามาจากทางเข้าอีกทาง กให้เดินตรงเข้ามาจนเจอร่มของทางร้านค่ะ
เดินขึ้นจากทางนี้เลยค่ะ
จุดสังเกตการเดินมาที่ร้านอีกทางคือให้จอดรถบริเวณด้านข้าง ตรงข้ามตึกใหม่ที่เหมียวๆไม่ได้เห็นตอนที่เรียนอยู่ ตึกนี้ชื่อตึกสิทธาคารค่ะ
ลากันไปด้วยข้อความที่เหมียวๆรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่อ่าน เหมียวๆภูมิใจค่ะที่เคยศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดล ไม่ว่ากลับมากี่ครั้งก็ยังรู้สึกอบอุ่น และคิดว่าว่าที่นี่คือบ้านอีกหลังที่ให้ความรู้กับเหมียวๆ และเหมียวๆเชื่อว่าทุกคนก็คงรู้สึกเหมือนกันค่ะ เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ เราได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ 2 Madames ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : Kit Kat Kitten Fan Page ด้วยนะคะ
Kit Kat Kitten
ถึงแม้จะมีคนบอกว่า "แตงโม" เป็นสาวออฟฟิตใช้ชีวิตวุ่นๆเกือบทั้งหมดไปกับการทำงาน จนไม่มีเวลาไปไหนต่อไหน แต่ความเป็นจริงนั้น Lifestyle ของสาวลั่นล๊าแบบแตงโมไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ก็แตงโมทั้งชอบกิน ชอบเดินทางไปเที่ยว เป็นสาวสังคม และเป็นรักสัตว์ แบบนี้ จะพลาดชีวิต Chic Chic ไปได้ยังไง ความสุขเล็กๆของแตงโม คือการได้เดินทางไปในที่ต่างๆ และชื่อเหมียวๆนี้แตงโมจะนำมาใช้เป็นนามปากกาเวลาเขียนรีวิว ในทุกๆที่ที่แตงโมไปสัมผัส แตงโมรักที่จะเขียนเรื่องราว แบ่งปันความทรงจำ แชร์ความประทับใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆทุกคนค่ะ Kit Kat Kitten Fanpage https://www.facebook.com/kitkatkittenfans